สารต้านอนุมูลอิสระสามารถลดความเสี่ยงต่อโรคโดยเฉพาะโรคเรื้อรังที่สัมพันธ์กับอาหาร เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคสมอง (เช่น อัลไซเมอร์) เป็นต้น รวมทั้งช่วยชะลอกระบวนการบางขั้นตอนที่ทำให้เกิดความแก่ โดยปกติร่างกายสามารถกำจัดอนุมูลอิสระก่อนที่มันจะทำอันตราย แต่ถ้ามีการสร้างอนุมูลอิสระเร็ว หรือมากเกินกว่าร่างกายจะกำจัดทันอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้น จะสร้างความเสียหายต่อเซลล์และเนื้อเยื่อได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สารต้านอนุมูลอิสระ อันทรงประสิทธิภาพ สกัดจากสาหร่ายสีแดง “ฮีมาโตคอกคัส พลูเวลิส” ที่มีแหล่งกำเนิดในประเทศสวีเดน สาหร่ายสีแดงนี้ สร้างสาร “แอสตาแซนธิน” ซึ่งเป็นสารมีสีแดง จัดอยู่กลุ่มแคโรทีเนอยด์ มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อปกป้องตัวเอง จากการถูกน้ำทะเลชะล้าง และแสงแดดแผดเผา สามารถพบในปลาแซลมอน กุ้ง นกบางชนิด แต่พบในปริมาณที่น้อยมาก (แซลมอน 200 กรัม ให้แอสตาแซนธิน ได้เพียง 1 มก.เท่านั้น) แอสตาแซนธิน จึงพบในสาหร่ายสีแดงมากที่สุด |
สาหร่ายแดง @ บิวเบอร์รี่ |
|
ทำไมฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ |
แอสตาแซนธิน แตกต่างจากเบต้าแคโรทีนตัวอื่นและวิตามินอี ตรงที่มีออกซิเจนโมเลกุลสองตำแหน่ง จึงเพิ่มความสามารถไม่เพียงแค่ดักจับอนุมูลอิสระ แต่ยังหยุดการทำลายปฏิกิริยาลูกโซ่อนุมูลอิสระอันจะนำไปสู่การเกิดโรคต่างๆขึ้น เนื่องจากสูตรโครงสร้างทางเคมีที่โดดเด่นนี้เอง แอนตาแซนตินจึงได้รับการยกสถานะขึ้นเป็น แคโรทีนอยด์อีกชนิดหนึ่ง ในนามของ แซนโทฟิลส์ ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระที่สูงกว่า |
ในปัจจุบัน ได้มีบริษัทผลิตอาหารเสริมหลายบริษัทเลย ที่นำเข้าสารตัวนี้ |
Astaxanthin & Bilberry 1 Capsule เท่ากับ 4 มิลลิกรัม |
คุณค่าของวิตามินสูงกว่า |
แอสตาแซนธิน ( สาหร่ายแดง ) & บิลเบอร์รี่ |
ดูดี แลดูอ่อนเยาว์จากภายใน สู่ภายนอก
|
|
เราชอบทานอาหารเสริมเหมือนกันคะ อยากจะลองทานดุเหมือนกัน แต่กำลังลังเล กำลังหาว่าตัวไหนดีที่สุด ขอลองศึกษาดุก่อนค่า astareal
ตอบลบ